“ณัฏฐพล” ถก 33 บ.เอกชน ขับเคลื่อนโครงการสานอนาคตการศึกษา

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) มีการประชุมนโยบายและแผนงานขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาไทย ภายใต้ “โครงการสานอนาคตการศึกษา – คอนเน็กซ์ อีดี” ประจำปี 2562 โดยมีผู้แทนเครือข่ายพันธมิตร บริษัทเอกชน 33 องค์กรเข้าร่วม ซึ่ง นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชนสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี กล่าวว่า โครงการสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี เป็นการผนึกกำลังสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาของ 3 ภาคส่วนหลัก ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน เพื่อยกระดับการศึกษาไทย สู่การสร้าง “เด็กดี-เด็กเก่ง” ในระยะที่ 2 ที่ผ่านมา โครงการได้คัดเลือกโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมทั้งสิ้น 4,781 โรงเรียน คิดเป็น 15% ของโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศ ส่วนการดำเนินงานระยะที่ 3 พ.ศ.2562-2563 มีแผนพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และจัดโครงการต่างๆ ได้แก่ สมุดพกดิจิทัล โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลและการจัดการสถานศึกษา ให้สามารถประมวลผลข้อมูลและแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนรายบุคคล ในรูปแบบ “สมุดพกดิจิทัล” ที่จะช่วยให้ทราบจุดอ่อน จุดแข็ง ความถนัด ของนักเรียนแต่ละคน อันนําไปสู่การพัฒนาทักษะและส่งเสริมศักยภาพได้ตรงจุด จัดทำระบบการบริจาคออนไลน์ เพื่อระดมทุนสนับสนุนด้านการศึกษา ให้บุคคลทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนทางการศึกษามูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้เปิดให้ผู้แทนจากบริษัทเอกชนต่างๆ เสนอความคิดเห็นและความต้องการที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการดำเนินโครงการต่างๆ โดยได้มีการอภิปรายและเสนอข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง อาทิ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ โดยให้โรงเรียนเข้ามากรอกข้อมูลในระบบโรงเรียนประชารัฐ มีความเข้มงวดในการจัดการข้อมูลอย่างถูกต้อง และจัดทำตัวชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน ประเมินผลและถอดบทเรียนร่วมกันอย่างเข้มงวด เรื่องการพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยให้มีกระบวนการคัดกรองผู้บริหารสถานศึกษา และครูที่มีความยืดหยุ่น กำหนดให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดำรงตำแหน่งอย่างน้อย 5 ปี เพื่อความต่อเนื่อง โดยให้คณะทำงานโรงเรียนประชารัฐมีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาในโครงการได้ ตลอดจนมีการสร้างแรงจูงใจให้ครูและบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ ปรับวิทยาฐานเมื่อทำงานสำเร็จ ตลอดจนแก้ไขการขาดแคลนครูวิชาเอก รวมถึงปรับการผลิตครูให้สอนแบบบรูณาการได้ เป็นต้น

ด้านนายณัฏฐพล กล่าวว่า ศธ.จะยืดหยุ่นปัญหาที่เป็นข้อติดขัดต่างๆ เพื่อให้การศึกษาเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ในเรื่องของวิทยฐานะ ที่เสนอมานั้น ขณะนี้ศธ.อยู่ระหว่างการปรับปรุง หลักเกณฑ์การมีหรือเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจะทำให้ระบบการเข้าสู่ตำแหน่งของศธ. มีความโปร่งใสมากที่สุด เพื่อได้คนที่มีความสามารถเข้าสู่ตำแหน่งได้อย่างเหมาะสมที่สุด เพื่อจะที่ได้ผู้บริหารที่เข็มแข็ง ตนพบว่าโรงเรียนต่างๆ จะสามารถขับเคลื่อนได้หรือไม่ ผู้อำนวยการเป็นหลักสำคัญ ตนขอยืนยันกับภาคเอกชนว่าจะรับเรื่องมาทำ โดยศธ. ต้องสร้างความยืดหยุ่นในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละภาค เพราะความต้องการของแต่ละพื้นที่นั้นไม่เหมือนกัน ในอดีตตัดเสื้อโหลง่าย เร็ว และครอบคลุม แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถทำให้คุณภาพกระจายไปได้อย่างทั่วถึง

คำที่ค้นหาบ่อย สอบราชการ สอบ สอบ กพ. ติวสอบ เตรียมสอบ แนวข้อสอบ สอบท้องถิ่น สมัครสอบ ท้องถิ่น อบต. เทศบาล ประกาศสอบ งานราชการ กศน. สมัครสอบ กศน. ข้าราชการ ครู กศน. ครูผู้ช่วย นักจดการงานทั่วไป นักวิชาการศึกษา คู่มือสอบ สอบตำรวจ ทหาร เปิดสอบ สอบ ทดสอบ ข้อสอบ GAT PAT O-NET N-NET